ข่าวสาร

ข่าวสาร อัพเดทบทความ ความรู้ต่างๆ ในเรื่องที่เกี่ยวกับเครื่องสำอาง และกิจกรรมภายในต่างๆ จาก บริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล แลบบอราทอรีส์ จำกัด (ILC)

โควิด-19 กักตัว
ข่าวสาร

กักตัวโควิด-19 รวมวิธีดูแลผิวช่วงกักตัวหนี Covid-19

กักตัวโควิด-19 เนื่องจากวิกฤต Covid-19 กำลังระบาดไปทั่วโลก ทำให้เราต้องกักตัวอยู่ที่บ้านและงดพบปะสังสรรค์กับผู้อื่นตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ล่าสุดรัฐบาลยังประกาศเพิ่มเติมให้บรรดาคลินิกเสริมสวยต่างๆ ต้องปิดให้บริการชั่วคราว จนเกิดอาการความมั่นใจในตัวเองหดหาย เพราะไม่ว่าจะร้านทำเล็บ ร้านตัดผม สปา หรือคลินิกทำหน้า ฯลฯ ล้วนปิดหมด แต่ใช่ว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้ความงามหรือสิ่งที่คุณมีต้องมลายหายไปหรือเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ เพราะเรามี 5 วิธีดูแลผิวหน้าสำหรับคนที่อยากให้ความสวยอยู่คู่กับเราไปตลอดในช่วง กักตัวโควิด-19

กักตัวโควิด-19 เริ่มต้นจากภายนอก

1. เริ่มต้นจากภายใน 

สิ่งแรกที่ควรดูแลคือสภาพจิตใจของเราเอง บางครั้งความไม่มั่นใจว่าเราหน้าตาไม่ดีเกิดจากความกังวลที่อยู่ในส่วนลึกของจิตใจ หรือมาจากความรู้สึกว่าชีวิตไม่ปลอดภัยอันเกิดจากเรื่องไวรัส อย่างแรกจึงควรฟื้นฟูความมั่นใจของตนเองกลับมาก่อน เช่น พยายามคิดบวก หรือใช้เวลาที่อยู่บ้านพัฒนาตนเอง เริ่มอ่านหนังสือ ฟังเพลงให้มากขึ้น ฟังเทศน์ฟังธรรม ทำอาหาร ปลูกต้นไม้ เลี้ยงสัตว์ เรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ทั้งในโลกออฟไลน์และออนไลน์ การมีสมาธิทำสิ่งเหล่านี้จะทำให้จิตใจมั่นคงมากขึ้น พร้อมรับมือกับปัญหาอย่างมีสติ 

กักตัวโควิด-19 กินอาหารปรุงสุก

2. เปลี่ยนพฤติกรรมการกิน 

เราก็ควรถือโอกาสนี้ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตในการเลือกกินอาหารที่สะอาด ปรุงสุก และมีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น โปรตีนจากเนื้อปลาทะเลน้ำลึก แทนที่เบคอน แฮม ลูกชิ้นทอด ฯลฯ กินธัญพืช ผักและผลไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่มีวิตามินซีและแร่ธาตุสำคัญ เช่น ฝรั่ง ส้ม กล้วย มะละกอ ฯลฯ เหล่านี้ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานที่ดี ไม่เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยง่าย หากต้องการเสริมวิตามินให้ลองเป็นวิตามินรวม วิตามินบี ซี อี หรือแร่ธาตุ เช่น สังกะสี เช่นเดียวกับกระเทียมที่สามารถช่วยเรื่องภูมิต้านทานได้ด้วย แนะว่าใครที่ถนัดสั่งเดลิเวอรีควรเลือกอาหารปรุงสุก ร้อน และมีฝาปิดภาชนะที่มิดชิด แล้วอย่าลืมสั่งอาหารที่มีประโยชน์มากินล่ะ  

กักตัวโควิด-19 บำรุงผิวด้วยตัวเอง

3. สวยด้วยตัวเอง 

สวยไม่ง้อร้าน เริ่มต้นบำรุงผิวด้วยตัวเองที่บ้าน ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธีโดยไม่ต้องเจอใคร หากเป็นผิวหน้าควรมีเซรั่มหรือครีมบำรุงผิวที่มอบความชุ่มชื้น ลองฝึกทำสปาด้วยตัวเอง เช่น มาสก์หน้า ขัดผิวตัวและผิวเท้า ลองทาเล็บเองดูบ้าง ข้อดีคือตอนนี้คุณอยู่ในช่วงกักตัวโควิด-19 แม้จะทำไม่สวยก็ไม่มีใครเห็น ฝึกบ่อยๆ เดี๋ยวก็เก่งขึ้น ดีกว่าปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้ยิ่งเศร้าหมองไปกันใหญ่

กักตัวโควิด-19 ออกกำลังกาย

4. ออกกำลังกายเพื่อผิวพรรณ 

ช่วง Work from Home ทำให้เราต้องอยู่บ้าน อีกทั้งฟิตเนสก็ปิด ทำให้ไม่ได้ออกกำลังกาย หากไม่อยากให้น้ำหนักตัวเกิน แนะนำให้ออกกำลังกายเองที่บ้านวันละ 40-60 นาทีเป็นประจำทุกวัน ด้วยกิจกรรมที่หลากหลายและสามารถทำได้คนเดียว เช่น การเล่นโยคะ ไทเก๊ก วิ่ง เดินเร็ว บอดี้เวต ฯลฯ ข้อดีของการเล่นเองที่บ้านคือไม่ต้องเสี่ยงรับเชื้อจากคนอื่นๆ ในฟิตเนส และยังเป็นการป้องกันตัวเองไม่ให้เอาเชื้อไปติดใครด้วย (ในกรณีที่เป็นแต่ไม่รู้ตัว)

แน่นอนว่านอกจากการออกกำลังกายจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อ เผาผลาญไขมัน ทำให้ปอดและหัวใจแข็งแรงแล้ว ยังช่วยให้ผิวพรรณของเราดูดี เพราะมีเลือดสูบฉีด และขับสารพิษออกจากร่างกาย อย่าลืมว่าคนออกกำลังกายมักดูเด็กนะ จำไว้ 

กักตัวโควิด-19 งดของทำลายสุขภาพ

5. งดของทำลายสุขภาพ 

ลด ละ เลิก พฤติกรรมทำลายสุขภาพอย่างการดื่มเหล้าเมาหัวราน้ำบ่อยๆ เพราะไม่ดีทั้งกับสุขภาพผิวและตับ ถือโอกาสนี้เลิกบุหรี่เสียที เพราะการสูบบุหรี่ถือเป็นการทำลายปอด จุดเดียวกับที่ไวรัสพุ่งเข้าโจมตี และเลี่ยงการทำร้ายตัวเองด้วยการนอนดึกๆ ดื่นๆ ทำให้นอนไม่พอ เพราะนอกจากพฤติกรรมเหล่านี้จะทำลายสุขภาพโดยรวมแล้วยังทำให้ผิวของคุณพังได้ง่ายขึ้นอีกด้วย  

https://thestandard.co/
Writen : ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

หากท่านสนใจสร้างแบรนด์ของตัวเอง ผลิตแอลกอฮอล์เจล ผลิตสินค้าเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สำหรับผิว หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในแบรนด์ของตัวเอง สามารถขอคำปรึกษาได้ที่นี่ CLICK!!!
FB:ILC-International Laboratories
Tel : 02-346-8222-4
E-mail : export@ilc-cosmetic.com
j_bussaba@ilc-cosmetic.com
www.ilc-cosmetic.com
Line: @ilc_cosmetic

contact ilc
ผลิตเครื่องสำอางผู้สูงวัย
ข่าวสาร

ผลิตเครื่องสำอางผู้สูงวัย ธุรกิจที่น่าจับตามองปี 2020-2023

ผลิตเครื่องสำอางผู้สูงวัย ธุรกิจที่น่าจับตามองปี 2020-2023 จากข้อมูลของคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) ระบุว่า ในปี 2560 ไทยมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป 11.3 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 17.1 ของจำนวนประชากรทั้งหมด เมื่อจำนวนผู้สูงอายุมีเพิ่มมากขึ้นทุกปี แนวโน้มการใช้จ่ายของผู้สูงอายุจะมากขึ้น เรียกได้ว่าอีกไม่นานประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมของผู้สูงวัยเต็มรูป เนื่องจากพฤติกรรมการใช้โซเชียลของผู้สูงอายุที่มีมากขึ้นมีผลต่อการเลือกซื้อเครื่องสำอางหรือสินค้าทำให้เป็นโอกาสสำหรับใครที่อยากเจาะตลาดเครื่องสำอางผู้สูงวัยในตอนนี้ค่ะ
วันนี้จะมาแนะนำคนที่อยากผลิตเครื่องสำอางแต่ยังไม่มีข้อมูลว่าต้องการผลิตเครื่องสำอางเพื่อกลุ่มลูกค้าประเภทไหน “เทรนด์ผู้สูงอายุ” เป็นคำตอบของบทความนี้ ตามมาหาคำตอบพร้อมกันเลยค่ะ

ผลิตเครื่องสำอางผู้สูงวัย

เทรนด์ผู้สูงอายุกับการผลิตเครื่องสำอาง

ผู้สูงวัยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าในปี 2564 ไทยจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะมีสัดส่วนผู้สูงอายุร้อยละ 20 ของจำนวนประชากรทั้งหมด ซึ่งอัตราการเกิดใหม่ของไทยในปัจจุบันนี้คือเฉลี่ยอยู่ที่อัตราร้อยละ 1.5 คนต่อผู้หญิง 1 คน ขณะนี้คาดการณ์ว่าประชากรของไทยจะลดลงจากประมาณ 69 ล้านคน เหลือประมาณ 65 ล้านคนในปี 2593 และประมาณ 47 ล้านคนในปี 2643 เท่านั้น (ขอบคุณข้อมูลจาก RYT9.com)
ทำให้การผลิตเครื่องสำอาง เพื่อตอบโจทย์ผู้สูงอายุนั้นเป็นสิ่งที่น่าสนใจ เพราะกลุ่มผู้สูงอายุให้ความสนใจหนึ่งในนั้นจะเป็นเรื่องของเครื่องสำอางและความงาม โดยมีแนวโน้มเติบโตมากคือเครื่องสำอางออร์แกนิคนั่นเองค่ะ ขณะนี้สินค้ากลุ่มสกินแคร์สำหรับผู้สูงอายุมีความนิยมทางการตลาดค่อนข้างมาก จะเห็นได้ว่าจะมีทั้งโลชั่นบำรุงผิว แชมพูสระผม ครีมอาบน้ำ มากขึ้น โดยส่วนใหญ่จะเน้นไปทางตลาดออนไลน์ค่ะ

ผลิตเครื่องสำอางออร์แกนิคตอบโจทย์ผู้สูงอายุ

ปัจจุบันผู้สูงอายุมีกำลังในการซื้อเครื่องสำอางมากกว่ากลุ่มวัยอื่นๆ โดยเน้นไปที่ตัวแบรนด์เครื่องสำอาง โดยความนิยมและความต้องการเครื่องสำอางออร์แกนิคจะเติบโตอย่างไม่หยุดและเพิ่มปริมาณความต้องการขึ้นเรื่อยๆ เพราะเครื่องสำอางที่ผลิตจากธรรมชาติแท้ 100% กลายเป็นสิ่งที่หายากและมีราคาสูงมากค่ะ
ดังนั้นภาพรวมของตลาดเครื่องสำอางในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ กลุ่มผู้สูงอายุเป็นกลุ่มเป้าหมายที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากผลิตเครื่องสำอางในปัจจุบันนี้ จึงเป็นโอกาสเหมาะที่เหล่านักสร้างแบรนด์เครื่องสำอางจะคว้าโอกาสตอนนี้ผลิตเครื่องสำอางสำหรับผู้สูงวัย เปิดตลาดก่อนใครได้กำไรแน่นอน

Writen By : Kanyapat P.

หากท่านสนใจสร้างแบรนด์ของตัวเอง ผลิตแอลกอฮอล์เจล ผลิตสินค้าเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สำหรับผิว หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในแบรนด์ของตัวเอง สามารถขอคำปรึกษาได้ที่นี่ CLICK!!!
FB:ILC-International Laboratories
Tel : 02-346-8222-4
E-mail : export@ilc-cosmetic.com
j_bussaba@ilc-cosmetic.com
www.ilc-cosmetic.com
Line: @ilc_cosmetic

contact-ilc
ผลิตเครื่องสำอาง เทรนด์นี้เพื่อผู้ชาย
ข่าวสาร

เครื่องสำอางสำหรับผู้ชาย-เทรนด์นี้เพื่อผู้ชาย! มาผลิตเพื่อบุกตลาดโลกกันเถอะ

เครื่องสำอางสำหรับผู้ชาย-เทรนด์นี้เพื่อผู้ชาย! เมื่อค่านิยมเปลี่ยน ทัศนคติเปลี่ยน ทำให้ธุรกิจเครื่องสำอางหรือตลาดเครื่องสำอาง เกิดกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเพื่อตอบสนองค่านิยมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น จะเห็นได้ชัดจากผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางกลุ่ม Men Products หรือ Personal Care ของผู้ชายที่เมื่อก่อนเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับความนิยมมากนัก เพราะผู้ชายในสมัยนั้นไม่ได้สนใจเรื่องของการดูแลผิวภัณฑ์ตัวเองเท่าไหร่ จะมีแต่ผู้หญิงมากกว่าที่จะซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางให้ผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อยุคสมัยที่เปลี่ยนไป พฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนตาม ปัจจุบันนี้ผู้ชายเริ่มหันมาดูแลผิวภัณฑ์ตัวเองมากขึ้น ทำให้อัตราการแข่งขันในการผลิตเครื่องสำอางสำหรับผู้ชายตอนนี้มีอัตราที่สูงขึ้นกว่าเมื่อก่อนในตลาดเครื่องสำอางที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด ไม่ใช่ว่าการสร้างแบรนด์เครื่องสำอางใหม่จะทำการตลาดตีเทียบเท่าแบรนด์ระดับโลกไม่ได้ หากเรานำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่เราจะขาย ผลิตภัณฑ์ผู้ชายจึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ

วันนี้จะมาแนะนำเครื่องสำอางสำหรับผู้ชาย ว่ามีผลิตภัณฑ์อะไรที่น่าสร้างแบรนด์ผลิตเครื่องสำอางกันบ้าง และแนวทางกลยุทธ์การทำการตลาด เพื่อพาแบรนด์เครื่องสำอางผู้ชายเข้าสู่ตลาดโลก มาดูพร้อมกันเลยค่ะ

มุมมองการผลิตเครื่องสำอาง กับ ผู้ชาย

เพราะยุคสมัยนี้ไม่เพียงแค่หน้าที่การงานที่ทำให้ผู้ชายต้องดูดี มีบุคลิกภาพที่ดูสง่า แต่พฤติกรรมการบริโภคของผู้ชายก็เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน ไม่มีใครไม่อยากมีผิวพรรณที่ดูดีขึ้น สวยหล่อขึ้นแบบไม่ต้องพึ่งพามีดหมอหรือคลินิกเสริมความงาม และรูปลักษณ์ภายนอกสำหรับบางคนเป็นใบเบิกทางหลายๆอย่างในชีวิต ยิ่งคุณผู้ชาย
ดูแลตัวเองดีมากเท่าไหร่ยิ่งเสริมความมั่นใจให้ตัวคุณผู้ชายเองอีกด้วย ทำให้แบรนด์ต่างๆที่แข่งขันกันในตลาดเครื่องสำอางเริ่มทำการผลิตเครื่องสำอางฟอร์เมน (For Men) สู่ตลาดเครื่องสำอางให้ตอบโจทย์ผู้ชายกันมากขึ้น จึงเกิดผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจและตรงกับสภาพผิวของคุณผู้ชายอีกด้วย แน่นอนว่าตลาดเครื่องสำอางตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็น การผลิตเครื่องสำอางกลุ่มสกินแคร์ (Skincare) จนไปถึงการผลิตเครื่องสำอางกลุ่มแฮร์แคร์ (Haircare) ดูๆไปยังไม่ค่อยหลากหลาย ไม่มีความแตกต่างที่เห็นตามห้างชั้นนำทั่วไปเลยใช่ไหมล่ะคะ
เราจะมาพูดถึงการผลิตเครื่องสำอางนวัตกรรมใหม่ว่าสินค้าแบบไหนแตกต่าง และเหมาะกับกลุ่มคุณผู้ชายวัยไหนกันบ้าง

ผลิตเครื่องสำอางที่เหมาะกับผู้ชาย Gen-X

Gen-X คือกลุ่มผู้ชายที่มีอายุระหว่าง 41-55 ปี ซึ่งพฤติกรรมการซื้อเครื่องสำอางของผู้ชายกลุ่มนี้นั้นเป็นกลุ่มคนที่มีหน้าที่การงานที่มั่งคงแล้ว และมีครอบครัว เป็นวัยที่ให้ความสำคัญกับหน้าที่การงานและครอบครัวมากกว่าที่จะมีเวลามาเดินใส่ใจเลือกเครื่องสำอาง จะเป็นกลุ่มคนที่เคยใช้แบรนด์ไหนมาก่อนก็จะใช้แต่แบรนด์นั้นไม่เปลี่ยนใจ และคนกลุ่มนี้จะใส่ใจกับเรื่องของเวลาอย่างมาก แม้ว่าจะใส่ใจเรื่องบุคลิกภาพที่ต้องดูดีมีภูมิฐานในการทำงานเหมือนกัน หากอยากทำการผลิตเครื่องสำอาง เพื่อคนกลุ่มนี้ แนะนำให้ผลิตเครื่องสำอางที่ช่วยให้ประหยัดเวลา รวดเร็ว และใช้งานง่าย และเครื่องสำอางที่อยากแนะนำก็คือ Hair Tonic เพราะเรื่องของรังแค สามารถทำลายบุคลิกภาพของคุณได้ ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ลดความมัน ลดรังแค ลดการขาดหลุดร่วง บำรุงผมให้เงางาม หนังศีรษะชุ่มชื่นสุขภาพดี

ผลิตเครื่องสำอางที่เหมาะกับผู้ชาย Gen-Y

Gen-Y คือกลุ่มผู้ชายที่มีอายุระหว่าง 23-40 ปี ซึ่งพฤติกรรมของผู้ชายกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ตามครอบครัว ใช้ตามแฟนค่อนข้างมาก เป็นวัยของการทำงานและสังสรรค์ คนกลุ่มนี้เวลาเลือกซื้อเครื่องสำอางจะมีคนในครอบครัวหรือคนรอบตัวที่เป็นผู้หญิงเข้ามาช่วยเลือกหรือแนะนำ ยิ่งผลิตภัณฑ์ไหนมีปริมาณที่เหมาะสมและคุ้มค่ากับราคายิ่งสนใจที่จะซื้อไม่ว่าจะเป็นแบรนด์อะไร แต่อีกพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้จะให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์ที่มีความแปลกใหม่เสมอ หากอยากผลิตเครื่องสำอางสำหรับผู้ชายกลุ่มนี้แนะนำ “Active Face Serum Gel Spray For Men” เพราะช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตวัยทำงานที่ต้องออกนอกบ้านไปเจอฝุ่น ควัน แสงแดดต่างๆ เมื่อมลภาวะเป็นพิษ ต้องคิดและใส่ใจตัวเองนะคะ ผลิตภัณฑ์เซรั่มสำหรับผู้ชาย ด้วยคุณสมบัติในการปรับปรุงสภาพผิว ที่จะช่วยกระตุ้นในการ สร้าง Collagen และซ่อมแซม DNA มีส่วนผสมเอมไซม์ด้วยคุณสมบัติที่จะช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะอากาศและช่วยลดการสัมผัสที่จะก่อให้เกิดการระคายเคือง เหมาะสำหรับผู้ชายที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง
นี่คือเครื่องสำอางสำหรับผู้ชายที่อยากแนะนำให้ผลิตเจาะกลุ่มคุณผู้ชายยุคใหม่ แม้ว่า แบรนด์ที่ตีตลาดผู้บริโภคกลุ่มนี้ยังน้อย แต่ก็ไม่ใช่ว่าในอนาคตข้างหน้าตลาดเครื่องสำอางผู้ชายจะไม่มีโอกาสเติบโตมากกว่าปัจจุบันนี้ มาผลิตเครื่องสำอางเพื่อผู้ชายตอนนี้เข้าตลาดเครื่องสำอางระดับแนวหน้าก่อนใครกันดีกว่าค่ะ

Writen By : Kanyapat P.

หากท่านสนใจสร้างแบรนด์ของตัวเอง ผลิตแอลกอฮอล์เจล ผลิตสินค้าเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สำหรับผิว หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในแบรนด์ของตัวเอง สามารถขอคำปรึกษาได้ที่นี่ CLICK!!!
FB:ILC-International Laboratories
Tel : 02-346-8222-4
E-mail : export@ilc-cosmetic.com
j_bussaba@ilc-cosmetic.com
www.ilc-cosmetic.com
Line: @ilc_cosmetic

contact-ilc
เจลล้างมือ-แอลกอฮอล์
ข่าวสาร

รับผลิตแอลกอฮอล์เจล-โควิด-19: “เจลล้างมือ-แอลกอฮอล์” แบบไหน ฆ่าเชื้อไวรัสได้จริง

รับผลิตแอลกอฮอล์เจล เจลล้างมือ-แอลกอฮอล์ ที่ฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือเชื้อโควิด-19ต้องมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์มากกว่า 70% อย. ยัน ไม่ได้ห้ามผลิต นำเข้า หรือขายเจลล้างมือแอลกอฮอล์ แต่ผู้ประกอบการผลิต หรือผู้ที่ทำเจลล้างมือใช้เองต้องทำให้มีปริมาณแอลกอฮอล์มากกว่า 70% เจลล้างมือฆ่าเชื้อโควิด-19 ทำเองได้ แต่ต้องศึกษาส่วนผสมให้ดี ซึ่งบริษัทเรา รับผลิตแอลกอฮอล์เจล ที่ได้ตามมาตรฐาน อย.

นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวถึง กรณีของเจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์  ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกหนึ่งในการใช้ทำความสะอาดมือ เพื่อสุขลักษณะที่ดีในการป้องกันเชื้อโควิด-19 โดยได้มีประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดลักษณะของเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพื่อสุขอนามัยสำหรับมือที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือขาย พ.ศ. 2563 ที่ได้ลงเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้ในวันนี้ (10 มีนาคม 2563) กำหนดให้ผลิตภัณฑ์นี้เป็นเครื่องสำอางและต้องมีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ไม่ต่ำกว่า 70% โดยปริมาตร เนื่องจากหากมีปริมาณแอลกอฮอล์น้อยกว่า 70% โดยปริมาตรจะฆ่าเชื้อโรคไม่ได้

รับผลิตแอลกอฮอล์เจล

แอลกอฮอล์ในเจลล้างมือคือชนิดใด?

แอลกอฮอล์ที่ผสมในผลิตภัณฑ์จะเป็นเอทิลแอลกอฮอล์ หรือเอธานอล (Ethyl alcohol หรือ Ethanol) ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ หรือ ไอโซโพรพานอล (isopropyl alcohol หรือ isopropanol) เอ็น-โพรพิลแอลกอฮอล์ หรือ เอ็น-โพรพานอล (n-propyl alcohol หรือ n-propanol) โดยอาจเป็นเพียงสารเดียวหรือผสมรวมกันอยู่ตั้งแต่ 70% โดยปริมาตรขึ้นไป 

ดังนั้น ผลิตภัณฑ์เจลล้างมือแอลกอฮอล์ที่ผ่านการจดแจ้งจาก อย. แล้ว ประชาชนจะมั่นใจได้ว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่ต่ำกว่า 70% โดยปริมาตร 

รับผลิตแอลกอฮอล์เจล
Ethyl alcohol หรือ Ethanol

เลือกซื้อเจลล้างมืออย่างไร ถึงจะช่วยฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้จริง?

ควรเช็กส่วนผสมให้ดี และตรวจสอบเลขที่จดแจ้งของเจลล้างมือนั้นๆ ก่อนเพื่อสร้างความมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ 70% โดยปริมาตรขึ้นไป ตามที่กฎหมายกำหนด และรักษาสุขอนามัยที่ดีของร่างกาย 

ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบเลขรับจดแจ้งได้ที่เว็บไซต์ www.fda.moph.go.th หัวข้อ “ตรวจสอบผลิตภัณฑ์” หรือ Oryor Smart Application หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน อย.1556 ส่วนกรณีที่ประชาชนผลิตเจลล้างมือแอลกอฮอล์ใช้เองก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ปริมาณแอลกอฮอล์ต้องมากกว่า 70% โดยปริมาตร จึงจะมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อได้

รับผลิตแอลกอฮอล์เจล
www.fda.moph.go.th

หากท่านสนใจสร้างแบรนด์ของตัวเอง ผลิตแอลกอฮอล์เจล ผลิตสินค้าเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สำหรับผิว หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในแบรนด์ของตัวเอง สามารถขอคำปรึกษาได้ที่นี่ CLICK!!!
FB:ILC-International Laboratories
Tel : 02-346-8222-4
E-mail : export@ilc-cosmetic.com
j_bussaba@ilc-cosmetic.com
www.ilc-cosmetic.com
Line: @ilc_cosmetic

contact-ilc

ขอขอบคุณ

ข้อมูล :สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

Add @Sanook.com

5 beauty Tech 2020
ข่าวสาร

จับตา 5 Beauty Tech เทรนด์ปี 2020 เทคโนโลยีที่จะมาเนรมิตความงามเฉพาะบุคคล (Personalized Beauty)

ธุรกิจความงามเป็นธุรกิจที่ตลาดเติบโตอย่างต่อเนื่อง การเข้ามาของเทคโนโลยี อาจจะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบ แต่กลับเป็นการสร้างโอกาสมหาศาลให้กับตลาดนี้ ในแง่ของลูกค้า เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าจะยิ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับชีวิต สอดคล้องกับยุคสมัยใหม่ที่เร่งรีบ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผลิตภัณฑ์หรือสินค้านั้น ๆ รวมถึงเพิ่มการเข้าถึงตลาดกลุ่มใหม่ ๆ อีกด้วย ปี 2020 นี้อาจจะเป็นปีแห่งความรุ่งเรืองของ Beauty tech ทั้งในไทยและต่างประเทศ ไปดูกันว่าจะมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมอะไรเจ๋ง ๆ มาให้เราได้สัมผัสกันบ้าง

1. นวัตกรรมแห่งการบำรุงผิว ใช้ IoT ออกแบบสกินแคร์ให้เหมาะกับสภาพผิวในแต่ละวัน

จาก pain point ของผู้ใช้สกินแคร์ที่ประสบกับปัญหาใช้มาหลายตัวแล้วไม่ตอบโจทย์ เพราะผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดส่วนใหญ่ค่อนข้าง mass ไม่ตรงกับสภาพผิวและตอบปัญหาผิวไม่ตรงจุด ถ้าจะให้ดี ก็มีเป็นสูตรของตัวเองเลยดีกว่ามั้ย ?

IoT ออกแบบสกินแคร์
IoT ออกแบบสกินแคร์

แบรนด์เครื่องสำอางค์ญี่ปุ่นรายใหญ่ จึงนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยเปลี่ยนชีวิตคนยุคดิจิทัลที่เร่งรีบ ยุ่งยาก ให้แค่ใช้สกินแคร์ตัวเดียวจบ แก้ปัญหาผิวอย่างตรงจุด ครบทุกปัญหาผิวอย่าง นวัตกรรมสกินแคร์ที่ทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ผ่าน IoT service พร้อมนำเทคโนโลยี AI มาช่วยวิเคราะห์ตรวจจับสภาพผิวของผู้ใช้ในแต่ละวันแบบเรียลไทม์ แล้วประมวลผล personalize ออกมาเป็นครีมสูตรเฉพาะที่มีส่วนผสมที่ลงตัวที่สุดให้เหมาะกับสภาพผิวแต่ละวัน และเหมาะกับผิวผู้ใช้งานที่สำคัญ สามารถออกแบบครีมเฉพาะตัวได้มากถึง 80,000 สูตร ให้คุณได้เป็นเจ้าของครีมบำรุงดูแลผิวที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง

2. มิติใหม่แห่งการปกปิด ด้วยเครื่องลบริ้วรอยและจุดด่างดำให้หายไปในชั่วพริบตา

เครื่องลบริ้วรอยและจุดด่างดำเฉพาะจุด

อีกหนึ่งผลิตภัณท์ที่เจาะกลุ่มตลาด personalized beauty อย่าง “Opté Precision Skincare System” เครื่องลบริ้วรอยและจุดด่างดำเฉพาะจุด แก้ไขจุดบกพร่องบนใบหน้าให้หายไปในทันที เพียงแค่สแกน เครื่องจะวิเคราะห์และตรวจจับ ริ้วรอย หรือ จุดด่างดำต่าง ๆ บนผิวหน้า ด้วยเป้าหมายเพื่อให้ผู้ใช้งานมีผิวที่สวยสมบูรณ์แบบ เครื่องจะเริ่มทำงานด้วยการบำรุงผิว โดยใช้มอยเจอไรเซอร์และซีรั่ม หลังจากนั้นจึงเริ่มปกปิดด้วยการเติมเมคอัพเฉพาะจุดให้โดยอัตโนมัติ ที่เคลมว่าให้ความติดทนยาวนานถึง 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ข้อดีของการเติมเมคอัพเฉพาะจุด ยังจะช่วยให้ไม่เปลืองเนื้อผลิตภัณฑ์ และสบายผิว Opté Precision Skincare System ทำงานผ่านระบบอัลกอริทึ่มที่มีความแม่นยำสูง จึงสามารถวิเคราะห์เม็ดสีผิว และเลือกเฉดสีที่เหมาะกับของผู้ใช้แต่ละคนได้ ทำให้ได้ผลลัพธ์เนียนเหมือนกับการใช้ Photoshop เลยทีเดียว

3. แพลตฟอร์มบริการเสริมความงามสัญชาติไทย GoWabi กับการบริการและราคาที่คุณเลือกเอง

GoWabi
Source: https://techsauce.co/news/gowabi-raises-seed-funding-from-500-tuktuks

“GoWabi” แพลตฟอร์มที่รวบรวมบริการความงามอย่างครบถ้วนกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ และยิ่งไปกว่านั้นคือผู้ใช้บริการจะได้รับราคาที่ถูกกว่าปกติอีกด้วย รับรองเลยว่า ทั้งสวยและประหยัดในแบบที่คุณเลือกเอง นอกจาก GoWabi จะช่วยมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้บริการแล้ว ยังมีส่วนช่วยสร้างเม็ดเงินในตลาดบิวตี้ให้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เข้ากับกระแสดิจิทัลดิสรัปท์ชั่นที่เปลี่ยนไป ที่พฤติกรรมผู้บริโภคหันมาพึ่งการซื้อขายผ่านทางออนไลน์มากขึ้น GoWabi ให้บริการเสริมความงามแบบครบวงจร โดยที่คุณสามารถค้นหาร้านที่ต้องการ จองและจ่ายเงินได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่สำคัญคือผู้ใช้บริการไม่ต้องรอคิวอีกต่อไป จองเวลาที่สะดวก ถึงร้านปุ๊ป ได้ทำปั๊ป
GoWabi มีบริการเสริมความงามที่หลากหลายมากทั้ง spa & massage, facial treatments, hair removal, eyebrow & eyelash services, hair treatments, manicure & pedicure สามารถเลือกได้เลยตามความต้องการ สามารถเลือกความสวยในแบบฉบับของตนเอง ผ่านแอพพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์ https://www.gowabi.com/th

4. กระจกวิเศษ สไตลิสต์ส่วนตัวที่ช่วยให้ก้าวออกจากบ้านได้อย่างมั่นใจเต็มร้อย

Source: https://www.himirror.com/en-US/

ในที่สุด กระจกวิเศษในนิทานที่เราเคยได้อ่านกัน ก็กลายเป็นรูปธรรมในยุคสมัยนี้ โลกแห่งเทคโนโลยีได้ยกระดับประสบการณ์ความงามด้วย “HiMirror” กระจกอัจฉริยะที่ช่วยสามารถแปลงโฉมเราตั้งแต่หัวจรดเท้า ผ่านการสั่งงานด้วยเสียง Amazon Alexa Voice Control นอกจากนี้ ยังช่วยวิเคราะห์สภาพผิวหน้าอย่างละเอียดในแต่ละวันด้วย ผ่านการสแกนใบหน้าด้วย AI พร้อมกับคำแนะนำการดูแลผิวรายบุคคลผ่าน VDO ล้ำไปอีกขั้นด้วยการนำ AR (Augmented Reality) มาช่วยทดลองแต่งหน้า  ที่จะช่วยให้การตัดสินใจเลือกใช้เมคอัพง่ายขึ้นมาก ยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกเช่นอีก เช่น Virtual Beauty box บอกคุณได้ว่าผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่ใช้แล้วได้ผลกับคุณมากที่สุด พร้อมกับการนำเสนอสินค้าความงามด้วยแบรนด์ดัง ๆ ต่าง ๆ มากมาย มีเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ วัดความชื้น ระบบเปิดทำงานอัตโนมัติ (Auto-wake-up Sensor) มีการพยากรณ์อากาศแต่ละวัน ตรวจสอบสภาพแสง UV นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถฟังเพลงผ่าน Spotify ได้อีกด้วย

5. Personalize น้ำหอมด้วย AI

Personalize น้ำหอมด้วย AI

ศาสตร์แห่งการปรุงน้ำหอมได้พัฒนาไปอีกขั้นด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง AI ถือว่าเป็นการสร้างความแปลกใหม่ให้ตลาดอย่างมาก เพราะปกติแล้ว การปรุงน้ำหอมถือเป็นงานที่ใช้ประสาทสัมผัสผ่านมนุษย์อย่างจมูกในการคัดแยกกลิ่น เลือกกลิ่นที่ดีที่สุด การเข้ามาของ AI จึงมาช่วยรังสรรค์กลิ่นของน้ำหอมให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าที่พิเศษและไม่ซ้ำใคร จนบริษัทด้านเทคโนโลยี IBM ได้พัฒนา AI ที่มีชื่อว่า Philyra โดยนำข้อมูลจากบริษัท Symrise มากำหนดกลุ่มเป้าหมายในการปรุงน้ำหอมเฉพาะตัว ซึ่ง Symrise เป็นบริษัทปรุงน้ำหอมระดับโลกที่ผลิตน้ำหอมให้กับแบรนด์ดัง ๆ มากมาย เช่น Estée Lauder, Avon, Coty และ Donna Karan ล่าสุดได้ดีไซน์น้ำหอมจนกลายเป็นที่นิยมอย่างมากในบราซิล ภายใต้ชื่อแบรนด์ “Egeo ON by O Boticário” ที่ได้รับโจทย์และแรงบันดาลใจจากกลุ่มคนยุค millennials ในประเทศบราซิล นอกจากนี้ Symrise เองได้ลงทุนในสตาร์ทอัพน้ำหอม Phlur กว่า 6 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่ขายน้ำหอมออนไลน์ผ่านการแมทช์เพลงโปรดกับรูปภาพของลูกค้า เพื่อออกแบบน้ำหอมที่แสดงเอกลักษณ์ตัวตนและสะท้อน character ของลูกค้าได้เป็นอย่างดี

หากท่านสนใจสร้างแบรนด์ของตัวเอง ผลิตสินค้าเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สำหรับผิว หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในแบรนด์ของตัวเอง สามารถขอคำปรึกษาได้ที่นี่ CLICK!!!
FB:ILC-International Laboratories
Tel : 02-346-8222-4
E-mail : export@ilc-cosmetic.com
j_bussaba@ilc-cosmetic.com
www.ilc-cosmetic.com
Line: @ilc_cosmetic

References

https://www.facebook.com/gowabi/
https://www.fragrantica.com/news/Artificial-Intelligence-AI-The-Digital-Era-in-Perfumes-Arrives-First-in-Brazil-12355.html
https://www.racked.com/2017/1/26/14362724/phlur-fragrance-startup

NEWS, ข่าวสาร

“การตลาดโลกสวย” เทรนด์รักษ์โลก โอกาสสร้างแบรนด์

การตลาดโลกสวย

“การตลาดโลกสวย” ผู้บริโภคสายกรีน เมื่อผู้บริโภคเปลี่ยนไป แบรนด์ก็ต้องปรับตัว ก่อนจะตกขบวน เมื่อแบรนด์รักโลก โดยกลุ่มสินค้าที่มาแรงในปี 2563 ได้แก่ สินค้าที่ใช้วัตถุดิบย่อยสลายง่ายและกลับมาใช้ซ้ำ สินค้าหรือบริการที่ใช้พลังงานสะอาด สินค้าหรือบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สินค้าอีโค่มีดีไซน์ตอบสนองคนรุ่นใหม่

โดย วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) เผยผลวิจัยการตลาดโลกสวย Voice of Green ระบุผู้บริโภคคนไทยสายกรีน   เจาะลึกแนวโน้มการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า และบริการที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยงานวิจัยได้แบ่งประเภทสายกรีน ดังนี้

1.สายกรีนตัวแม่ 37.6%  ตั้งใจทำทุกอย่าง และยินดีจ่ายแพงขึ้นเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม

2.สายกรีนตามกระแส 20.8% ทำตามกระแสใช้สินค้าอีโค่ แต่ยังขาดทัศนคติด้านความต้องการเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งแวดล้อม

3.สายสะดวกกรีน 15.7% มีความเข้าใจในการปกป้องสิ่งแวดล้อม แต่ยังเคยชินกับการบริโภคแบบเดิม ๆ

 4.สายโนกรีน 26.0% ยังไม่พร้อมใช้จ่ายเพื่อสิ่งแวดล้อม และยังไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค เพราะมองว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก

Gen Baby boomer  (อายุ 55-73 ปี) มีแนวโน้มเป็นสายกรีนตัวแม่สูงสุด รองลงมาเป็น Gen X  (อายุ 39-54 ปี) ,  Gen Y (อายุ 23-38 ปี) และ Gen Z (อายุต่ำกว่า 23 ปี)

ถ้าองค์กร เปลี่ยน ผู้บริโภคก็พร้อมจะ “เปลี่ยน”  แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทัศนคติและพฤติกรรมของผู้บริโภค แบ่งได้เป็น 4 ระดับ คือ

Level 1 : 61% มีความคิดที่จะหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อม

Level 2 : 10% เริ่มมีพฤติกรรมใส่ใจสิ่งแวดล้อม และติดเงื่อนไข บางอย่าง เช่น คิดหนักถ้าต้องจ่ายเงินเพิ่มเมื่อซื้อสินค้า Eco

Level 3 : 16% มีพฤติกรรมใส่ใจสิ่งแวดล้อมบ้าง และยอมจ่ายในราคาที่สูงขึ้น

Level 4 : 13% ทำจนเป็นนิสัยในชีวิตประจำวัน

เราจะเปลี่ยนผู้บริโภคได้อย่างไร งานวิจัยได้นำเสนอ “ กลยุทธ์การตลาดโลกสวย” ดังนี้

Early : ปลูกฝังจิตสำนึกให้เด็กรุ่นใหม่

สายสะดวกกรีนและโนกรีน  41.7% ส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มเจน Y เจน Z กลุ่มนี้มีความใส่ใจสิ่งแวดล้อมยังไม่มากนัก ดังนั้นต้องเริ่มปลูกฝังเรื่องสิ่งแวดล้อม Gen Y และ Gen Z เป็นกำลังในการเปลี่ยนแปลงอนาคตของประเทศต่อไป

Now or Never : ปัญหาสิ่งแวดล้อมควรแก้ไขทันที

สายโนกรีนมีความใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมยังไม่มาก สาเหตุจากการคิดว่าไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนต้องแก้ไข และไม่ใช่หน้าที่ ดังนั้นทุกภาคส่วนต้องร่วมกันแก้ไขและดำเนินการทันที เพราะปัญหาจะบานปลายจนแก้ไม่ได้อีกเลย

Viral : สื่อสารปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างทั่วถึง

ต้องสื่อสารปัญหาสิ่งแวดล้อมให้เป็นกระแส ขยายเป็นวงกว้าง โดยใช้เครื่องมือ Social media ที่ช่วยในการแพร่กระจาย ทำ Viral ปัญหาสิ่งแวดล้อมให้กลายเป็น เรื่องกระจายในวงกว้าง จะสามารถสร้าง Impact ในการเปลี่ยนแปลงโลกของอย่างมหาศาล

Innovative :ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรม และดีไซน์

กลุ่ม SME หรือองค์กรธุรกิจใหญ่ ควรขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรมและการออกแบบสินค้า/บริการให้มีดีไซน์ จากการศึกษา พบว่า คนไทย 37.6% อยู่ในสายกรีนตัวแม่  ยินดีซื้อสินค้าหรือบริการที่แพงขึ้น เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม

“เทรนด์ธุรกิจโลกสวย” แบรนด์รักโลก ผู้บริโภครักแบรนด์

1) ธุรกิจสินค้าวัตถุดิบ “ย่อยสลายง่ายและนำกลับมาใช้ซ้ำ”

2) ธุรกิจสินค้า Eco มีดีไซน์ “ตอบสนองคนรุ่นใหม่”

ธุรกิจ Design ทั้งผลิตภัณฑ์และ Packaging ที่ตอบสนองคนรุ่นใหม่ เท่ คูล และรักษ์โลก เช่น Freitag ที่ทำมาจากผ้าใบของ รถบรรทุก หรือเป็นธุรกิจ Packaging กินได้ การออกแบบต้องสวยงาม เท่ ดูดี มีเอกลักษณ์ เพื่อคนถ่ายรูปได้ต่อ เป็นต้น

3) ธุรกิจที่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการ “ที่ใช้พลังงานสะอาด” เช่น ธุรกิจศูนย์ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ตอบสนองกลุ่มคนใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือธุรกิจไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแสงแดด เป็นต้น

4) ธุรกิจสินค้าหรือบริการ “ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” เช่น  ธุรกิจอาหารที่มีวัตถุดิบจากพืชแทนการใช้เนื้อสัตว์ในการแปรรูป เพราะการเลี้ยงสัตว์ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จำนวนมาก หรือธุรกิจวัสดุภาชนะที่ทำจากไม้ไผ่หรือฟางข้าว เป็นต้น

เราต่างตระหนักรู้ว่าการรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องรับผิดชอบ และต้องยอมเสียสละ ความสะดวกสบายบ้างอย่างออกไปบ้าง ซึ่งการทำให้เกิดการเห็นคุณค่าของสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคองค์กรธุรกิจ ซึ่งในระดับองค์กรธุรกิจหรือผู้ประกอบการนั้นได้เริ่มให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยมีแนวคิดการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมอยู่หลายประการ เพื่อมุ่งหวังการเติบโตตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ที่สามารถสร้างกำไรระยะยาวสอดรับกับกระแส“การค้าสีเขียว” เพื่อความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมต่อไป

หากท่านสนใจสร้างแบรนด์ของตัวเอง ผลิตสินค้าเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สำหรับผิว หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในแบรนด์ของตัวเอง สามารถขอคำปรึกษาได้ที่นี่ CLICK!!!
FB:ILC-International Laboratories
Tel : 02-346-8222-4
E-mail : export@ilc-cosmetic.com
j_bussaba@ilc-cosmetic.com
www.ilc-cosmetic.com
Line: @ilc_cosmetic

ที่มา: วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ข้อมูลวิจัยการตลาดโลกสวย Voice of Green: เพื่อโลก เพื่อเรา

https://www.sdperspectives.com/next-gen/voice-of-green-cmmu/

https://positioningmag.com/1260108

https://www.thebangkokinsight.com/270757/

https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9630000003750

https://www.everydaymarketing.co/trend-insight/voice-of-green-marketing-cmmu-eco-trend-2020/

#การตลาดโลกสวย #สร้างแบรนด์ #ผลิตเครื่องสำอาง #โรงงานรับผลิตเครื่อสำอาง #ILC #SJI #milott #derma-innovation #wathoothorn #โรงงานผลิตครีม #ผลิตครีม #ผลิตลิป

NEWS, ข่าวสาร

Anti-Pollution Skinecare เทรนด์ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวต่อต้านมลภาวะ

Anti-Pollution

ความต้องการผลิตภัณฑ์เพื่อความงามต่อต้านมลภาวะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อ วิกฤตฝุ่นพิษ PM 2.5 กลับมาครั้ง เหตุความกดอากาศต่ำ บวกปริมาณรถยนต์วิ่งกว่าวันละ 10 ล้านคันใน กทม. เป็นแหล่งต้นกำเนิดฝุ่นกว่าร้อยละ 75

แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ฝุ่นฟุ้งกระจายหลายพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร อยู่ในเกณฑ์ที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และผลกระทบของอากาศที่เป็นพิษบนผิว อนุภาคขนาดเล็ก เป็นอันดับสองรองจากดวงอาทิตย์เท่านั้น ในแง่ของการเกิดริ้วรอยและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในการดูแลผิวที่ออกแบบมาเพื่อต่อสู้กับพวกมัน

การค้นหาในอินเตอร์เน็ต หัวข้อ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวต่อต้านมลภาวะเพิ่มขึ้น 73% ในอนาคตผลิตภัณฑ์ป้องกันมลพิษจะเป็นเรื่องธรรมดาเหมือนกับครีมป้องกันแสงแดด ผลิตภัณฑ์บางอย่างปกป้องร่างกายจากมลภาวะเช่นเดียว กับครีมกันแดดในขณะที่ผลิตภัณฑ์อื่นเป็นน้ำยาทำความสะอาดที่กำจัดอนุภาคนาโนที่เป็นอันตราย หนึ่งในผลิตภัณฑ์ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือมาสก์ต่อต้านมลภาวะ ซึ่งเป็นที่มาของความนิยม ที่เพิ่มขึ้นของมาสก์เพื่อการแก้ไขอย่างรวดเร็ว

Mask For Anti-Pollution

ผลกระทบของมลพิษทางอากาศต่อสุขภาพของเราได้รับการศึกษามาเป็นเวลานาน  ในแง่ของการดูแลผิวมีงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่ามลภาวะสามารถนำไปสู่สิ่งต่าง ๆ เช่นการอักเสบและริ้วรอยก่อนวัยดังนั้นความนิยมที่เพิ่มขึ้นของความงามที่ต่อต้านมลภาวะและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

“ ผิวหนังของเราส่งผลกระทบต่อสิ่งที่เรา [ดูดซับ] เข้าสู่ร่างกายของเรา เราต้องปกป้องตัวเองจากโลกภายนอก” Natalya Rachkova ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท The Better Skin Co. กล่าวว่า เรารู้แล้วว่าควรกินอะไรและเราควรออกกำลังกายและดื่มน้ำเธอพูดว่า“ แต่เราต้องปกป้องตนเองจากสภาพแวดล้อมภายนอกด้วย”

อนุภาคขนาดเล็กเหล่านั้นทั้งหมดสามารถแทรกซึมและอุดตันรูขุมขนของเรา DR. Devika Icecreamwala แพทย์ผิวหนังซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเบิร์กลีย์รัฐแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า“ เราสังเกตว่ามลภาวะเป็นสาเหตุทำให้ผิวดูหมองคล้ำไม่สม่ำเสมอและเปลี่ยนสีได้หรือไม่”  การได้รับสารมลพิษในอากาศเป็นเวลานานสามารถทำให้คอลลาเจนแตกตัวได้ นั่นคือสิ่งที่“ การดูแลผิวต่อต้านมลภาวะ” เข้ามา ดังนั้นการดูแลผิวต่อต้านมลภาวะจึงมีวัตถุประสงค์เพื่อ“ ต่อต้านอนุภาคในอากาศที่นำไปสู่การทำลายผิว”

Anti-Pollution Skin

การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ต่อต้านมลภาวะคือ “กำจัดอนุภาคขนาดเล็กเหล่านั้นออกจากรูขุมขนดังนั้นจึงไม่อุดตันจริง ๆ อีกต่อไปและยังช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะที่สามารถแทรกซึมชั้นลึกลงไปได้เพราะ มลพิษนั้นสามารถทำลายคอลลาเจนได้จริง ๆ ”

สารต้านอนุมูลอิสระโดยเฉพาะวิตามินซีมีบทบาทสำคัญในการปกป้องผิวของเราจากผลกระทบของมลพิษในอากาศ พวกเขาทั้งสองแนะนำการรวมเซรั่มวิตามินซีในการดูแลผิวประจำวันของคุณ วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ ช่วยป้องกันการก่อตัวของอนุมูลอิสระ (อะตอมที่ไม่เสถียรที่สามารถทำลายเซลล์และอาจนำไปสู่การแก่ก่อนวัย) และ การเกิดเม็ดสี”

ความเสี่ยงต่อผลกระทบของมลภาวะผิวหนัง

“ ยิ่งคุณอยู่ใกล้กับมลพิษมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งส่งผลกระทบต่อคุณมากขึ้นเท่านั้น” Chapas กล่าวโดยจากประสบการณ์ของเธอ“ คนกรุงเทพและหัวเมืองใหญ่ ดูเหมือนจะมีความเสียหายต่อผิวหนังที่เกี่ยวข้องกับมลพิษมากกว่าคนต่างจังหวัด”โดยเฉพาะผู้ที่เดินไปและออกจากที่ทำงาน โดยขนส่งสาธารณะ  อาจสังเกตเห็นผลกระทบของมลภาวะต่อผิวมากกว่าคนที่อาศัยอยู่ในเขตชานเมืองหรือชนบท ชุมชน.

การป้องกันเป็นขั้นตอนแรกในการต่อสู้กับผลกระทบของมลพิษ ใช้สารต้านอนุมูลอิสระสามารถกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนได้ใหม่เมื่อถูกทำลายลง  และแน่นอนคุณควรใช้ครีมกันแดดเสมอซึ่งช่วยป้องกันความเสียหายเพิ่มเติมที่เกิดจากรังสี UVA และ UVB ของดวงอาทิตย์  ปกป้องผิวของคุณด้วยครีมกันแดด  และช่วยป้องกันคอลลาเจนจากการเสื่อมสภาพเช่นกัน

หากท่านสนใจผลิต ผลิตภัณฑ์ดูแลสภาพผิว และป้องกันมลภาวะ หรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิว อื่นๆ ผลิตครีม-เซรั่ม บำรุงผิว ในแบรนด์ของตัวเอง สามารถขอคำปรึกษาได้ที่นี่ CLICK!!!
FB:ILC-International Laboratories
Tel : 02-346-8222-4
E-mail : export@ilc-cosmetic.com
j_bussaba@ilc-cosmetic.com
www.ilc-cosmetic.com
 Line: @ilc_cosmetic
Contact us
#ผลิตครีม #ผลิตเซรั่ม #โรงงานรับผลิตครีม #โรงงานรับเซรั่ม #PM2.5 #ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวต่อต้านมลภาวะ #ผลิตภัณฑ์ป้องกันมลพิษ #โรงงานรับผลิตเครื่องสำอาง
ที่มา : https://www.huffpost.com/entry/skin-care-anti-pollution_l_5ca76a19e4b047edf9596ea0
https://www.cosmoprof-asia.com/blog/anti-pollution-skincare-the-latest-beauty-trend/
NEWS, ข่าวสาร

AHA VS BHA สารสกัดจากธรรมชาติอุดมคุณค่าต่อผิว

สารสกัดจากธรรมชาติที่มีฤทธิ์เป็นกรด

ความแตกต่างระหว่าง AHA และ BHA สารสกัดจากธรรมชาติ

AHA คือ สารประกอบที่มีฤทธิ์เป็นกรด เป็นสารสกัดจากผลไม้ เช่น กรดซิตริกจากมะนาว ส้ม กรดมัลลิกจากแอปเปิ้ล กรดแล๊กติกจากนมเปรี้ยว เป็นต้น

ผิวของเราผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วตามธรรมชาติทุกวัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปส่วนใหญ่เป็นผลมาจากอายุและการสัมผัสกับแสงแดดที่ไม่ได้รับการปกป้องกระบวนการไหลนี้ช้าลงและอาจหยุดทั้งหมด ส่งผลให้ผิวหมองคล้ำแห้งหรือเป็น ขุย รูขุมขนอุดตัน การกระแทกริ้วรอยการสูญเสียความกระชับและโทนสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ

ช่วยให้ผิวผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดออกอย่างอ่อนโยน – ตามธรรมชาติเมื่อเราอายุน้อยกว่า – เผยผิวสวยนุ่มชุ่มชื่นซ่อนตัวอยู่ข้างใต้อย่างรวดเร็วในชั่วข้ามคืน หากไม่มีคำถามการปล่อยสารเคมี AHA ( กรดอัลฟาไฮดรอกซี ) หรือ BHA (เบต้าไฮดรอกซี) สามารถสร้างโลกที่แตกต่างในรูปลักษณ์ของผิวคุณ เรามักจะถามคำถามที่ดีที่สุดและคำตอบนั้นซับซ้อนน้อยกว่าที่คุณคิด

AHAs และ BHA มีความคล้ายกันอย่างไร

AHAs (กรดอัลฟ่าไฮดรอกซีเช่นไกลโคลิกและกรดแลคติก) และ BHA (เบต้าไฮดรอกซี / ซาลิไซลิกแอซิด) ทำหน้าที่ทั้ง “ไม่เคลือบ” พันธะที่จับผิวหมองคล้ำและผิวที่ตายแล้ว เมื่อพันธะเหล่านั้นแตกหัก – อย่างอ่อนโยนและสม่ำเสมอ – ผิวหนังจะผลัดเซลล์ที่ใช้ไป ดังนั้นแม้ว่าคุณจะไม่ได้เห็นผิวของคุณจริง ๆ คุณจะเห็น (และสัมผัส) ผิวที่เรียบเนียนดูอ่อนกว่าวัยในไม่ช้า

BHA

นอกจากนี้ AHA และ BHA มีคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้พวกเขาเป็นที่นิยมสำหรับิผวแต่ละประเภท

-ลดลักษณะของเส้นและริ้วรอย

-ทำให้ผิวดูและรู้สึกกระชับ ผิวชุ่มชื้น

-ปรับปรุงรูปลักษณ์ของผิวที่หมองคล้ำไม่สม่ำเสมอ

-พื้นผิวเรียบขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ

AHAs และ BHA ต่างกันอย่างไร

AHA BHA ต่างกันอย่างไร

AHAs ละลายน้ำได้จึงทำงานได้เฉพาะบนพื้นผิว โดยทั่วไปแล้วพวกเขาจะชอบผิวธรรมดาถึงแห้งและผิวที่โดนแดดเนื่องจากความสามารถในการเพิ่มความชุ่มชื้นตามธรรมชาติในผิว (ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว BHA ยังให้ความชุ่มชื้นเช่นกัน AHAs ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการลดสัญญาณที่มองเห็นได้ของความเสียหายจากแสงแดดรวมถึงลดริ้วรอย

BHA ทำงานบนพื้นผิวและลึกลงไปในรูขุมขน มันเป็นน้ำมันที่ละลายได้ดังนั้นจึงมักจะเหมาะสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวมันมีแนวโน้มที่จะกระแทกกระแทกอุดตันสิวและรูขุมขนขยายใหญ่ขึ้น BHA ยังมีคุณสมบัติในการสงบผิวตามธรรมชาติดังนั้นจึงมีความอ่อนโยนเพียงพอสำหรับผิวที่บอบบางหรือมีแนวโน้มที่จะเป็นสีแดงหรือ rosacea ส่วนผสมที่อ่อนโยนและกลมกล่อมนี้เหมาะสำหรับผิวที่มีปัญหาที่ต้องเผชิญกับการถูกทำลาย

หากท่านสนใจผลิตสินค้าที่มีส่วนผสมของ AHA BHA สารสกัดจากธรรมชาติ หรือสารสกัดอื่นๆ ผลิตครีม-เซรั่ม บำรุงผิว ในแบรนด์ของตัวเอง สามารถขอคำปรึกษาได้ที่นี่ CLICK!!!
💬FB:ILC-International Laboratories
📲Tel : 02-346-8222-4
📨E-mail : export@ilc-cosmetic.com
📨j_bussaba@ilc-cosmetic.com
🌐www.ilc-cosmetic.com
✅ Line: @ilc_cosmetic
Contact

#ผลิตครีม #ผลิตเซรั่ม #โรงงานรับผลิตครีม #โรงงานรับเซรั่ม #AHA #BHA #สารสกัดจากธรรมชาติ #โรงงานรับผลิตเครื่องสำอาง

ที่มา : https://www.paulaschoice.com/skin-care-advice/exfoliants/difference-between-aha-and-bha-exfoliants

https://www.wongnai.com/beauty-tips/aha-vs-bha

https://www.pobpad.com/aha-%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD

NEWS, ข่าวสาร

รู้จัก SPF และ PA++ ในครีมกันแดด

การผลิตครีมกันแดด ที่มีประสิทธิภาพนั้น เราต้องมาทำความรู้จักกับ ค่า SPF กับ ค่า PA

ซึ่งเป็นส่วนผสมที่อยู่ในครีมกันแดด ผลิตภัณฑ์กันแดดมีความจำเป็นมาก โดยเฉพาะแสงแดดที่มีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆทุกปี ทำให้เซลล์ผิวหนังสร้างเม็ดสีเมลานินเพิ่มมากขึ้น จนทำให้ผิวหนังมีสีคล้ำขึ้น และปัญหาผิวหนังด้านอื่นๆ ก็ตามมาด้วย คือ ฝ้า กระ หากได้รับแสงแดดจัด อาจจะทำให้เกิดอาการผิวแดงหรืออาการผิวหนังถูกแดดเผาได้ นอกจากนี้รังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสียูวีในแสงแดดยังส่งผลให้มีความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย ในการผลิตครีมกันแดดเราต้องคำนึงถึงด้วย

SPF (Sun Protection Factor) คือ ค่าประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวี (UV) เป็นตัวชี้วัดที่สัมพันธ์กับระยะเวลา ของครีมกันแดดที่จะปกป้องคุณจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) B ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสีแดงและการถูกแดดเผา

ชั้นผิว
UVB มีแนวโน้มที่จะทำลายผิวหนังชั้นนอก ซึ่งเป็นรูปแบบที่พบบ่อยที่สุด (และอันตรายน้อยที่สุด) ของโรคมะเร็งผิวหนัง มะเร็งเหล่านี้มีความสัมพันธ์กับการสะสมของแสงแดดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่วนมะเร็งผิวหนังชนิดอื่น เรียกว่ามะเร็งผิวหนัง (Melanoma) เป็นสาเหตุที่เกิดจากการสัมผัสสั้น ๆ และรุนแรงเช่นการถูกแดดเผา

การใช้งานครีมกันแดดอย่างถูกต้อง ควรทาครีมกันแดดก่อนจะออกแดด 20 นาที โดยครีมกันแดดที่มี SPF 30 จะสามารถป้องกันได้นานประมาณ 10 ชั่วโมง แต่การกระจายความเข้มและความยาวคลื่นของรังสี UVB แตกต่างกันไปตลอดทั้งวันและตามสถานที่

การปกป้องชั้นผิวของผลิตภัณฑ์กันแดด

แต่คำนวณนั้นใช้ไม่ได้กับรังสี UVA รังสียูวีเอนั้นนานพอที่จะไปถึงชั้นผิวหนังของผิวหนังคอลลาเจนที่สร้างความเสียหายและเนื้อเยื่อยืดหยุ่น ชั้นนั้นก็เป็นที่ที่เซลล์ที่กระตุ้นการทำให้ผิวคล้ำพบ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมรังสี UVA จึงถูกพิจารณาว่าเป็นผิวสีแทนที่โดดเด่น (มีการใช้รังสี UVA ในเตียงอาบแดด) แม้ว่าหลายคนยังคิดว่าผิวสีแทนดูมีสุขภาพดี แต่จริงๆแล้วมันเป็นสัญญาณของความเสียหายของดีเอ็นเอ – ผิวคล้ำในความพยายามที่ไม่สมบูรณ์เพื่อป้องกันการบาดเจ็บเพิ่มเติมซึ่งอาจนำไปสู่การกลายพันธุ์ของเซลล์ กระตุ้นมะเร็งผิวหนัง

SPF

ครีมกันแดดสามารถให้การปกป้องเพียงบางส่วน จากผลกระทบที่เป็นอันตรายของดวงอาทิตย์ การหลีกเลี่ยงสัมผัสกับแสงแดด และการสวมชุดป้องกัน เป็นอีกหนึ่งวิธีสำคัญในการปกป้องผิวของคุณจากโรคมะเร็งและริ้วรอยก่อนวัย อย่าใช้ครีมกันแดดเพื่อให้ผิวสามารถสัมผัสแสงแดดได้นานขึ้นและต้องระมัดระวังการโดนแดดในช่วงเวลากลางวัน ระหว่าง 10.00 น. ถึง 16.00 น. เป็นช่วงที่รังสีของดวงอาทิตย์รุนแรง และโปรดจำไว้ว่ารังสี UVA จะไม่ลดลงเหมือน UVB เมื่อดวงอาทิตย์ตกดิน หรือเมื่อมืดครึ้ม ส่วนรังสี UVA สามารถทะลุผ่านกระจกได้ ทาครีมกันแดด 15 นาทีก่อนออกไปข้างนอกและทาซ้ำบ่อยๆ – อย่างน้อยทุกสองชั่วโมง แม้แต่ครีมกันแดดที่ดีที่สุดก็ทำงานได้ไม่ดี หากคุณไม่ได้ใช้อย่างถูกต้อง

ครีมกันแดดมีปริมาณเท่าใดและฉันควรใช้ซ้ำบ่อยแค่ไหน?

ทำตามคำแนะนำของสมาคมโรคมะเร็งอเมริกัน การทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอและทั่วถึง – 15 นาทีก่อนออกไปข้างนอกและอย่างน้อยทุกสองชั่วโมง และทาใหม่หลังจากที่มีเหงื่อออกมากใช้ผ้าเช็ดตัวให้แห้งหลังจากกิจกรรมต่าง ที่ทำให้ครีมกันแดดและสารกันแดดลดประสิทธิภาพลงหรือหายไป (การศึกษาหนึ่งบ่งชี้ว่าเป็นการดีที่สุดที่จะทาครีมกันแดดใหม่หลังจาก 15 ถึง 30 นาทีแรกที่สัมผัสแสงแดด)

ครีมกันแดดจะปกป้องฉันจากโรคมะเร็งและริ้วรอยได้หรือไม่?

รูปแบบของรังสีอัลตราไวโอเลต – UVA และ UVB – เป็นที่รู้จักกันเพื่อนำไปสู่โรคมะเร็งผิวหนัง, รอยย่นและริ้วรอยผิว เพื่อให้ได้รับการปกป้องสูงสุดให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่กรองสัดส่วนที่สำคัญของทั้งสองประเภท ครีมกันแดดจำนวนมากมีฉลากที่มีการป้องกัน “คลื่นความถี่กว้าง” แต่การป้องกันรังสี UVA ของพวกเขามักจะไม่เพียงพอ หมายเลข SPF แสดงให้เห็นว่าครีมกันแดดตัวใดมีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากรังสี UVB และการถูกแดดเผามากเท่าใดยิ่งมีการป้องกันมากเท่าไหร่ แต่ค่า SPF พูดได้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับการป้องกันรังสี UVA

หากสนใจผลิตครีมกันแดดในแบรนด์ของตัวเอง สามารถขอคำปรึกษาได้>>ที่นี่ <<<

#ผลิตครีมกันแดด #ผลิตครีม #โรงงานรับผลิตครีมกันแดด #โรงงานรับผลิตครีม

ที่มา: https://www.ewg.org/sunscreen/faqs-your-sunscreen-questions-our-answers/

https://www.consumerreports.org/cro/magazine/2015/05/what-does-spf-stand-for/index.htm

https://medthai.com/%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%94/

NEWS, ข่าวสาร

TONER , ESSENCE, SERUM และ AMPOULE ต่างกันอย่างไร?

อยากสร้างแบรนด์ของตัวเอง เรามาทำความรู้จักกับ TONER , ESSENCE, SERUM และ AMPOULE ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร 

ความแตกต่างของ Toner,Essence,Serum,Ampoule

ความแตกต่างของ Toner,Essence,Serum,Ampoule

กระแส  Korea beauty กลายเป็นเทรนด์ที่มีความนิยมมากขึ้น อาจมีผลิตภัณฑ์ที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อนเป็นทางเลือกเพื่อความสวยงาม  การดูแลผิว 10 ขั้นตอนของเกาหลี จึงได้กลายเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของผลิตภัณฑ์และฟื้นฟูผิว เช่นโทนเนอร์,เอสเซ้นต์ , เซรั่มและแอมเพิล ที่มีบทบาทสำคัญในทุกขั้นตอน แล้วผลิตภัณฑ์ เหล่านี้แตกต่างกันอย่างไร?  นี่คือสิ่งที่คุณควรจะต้องทราบหากจะสร้างแบรนด์ของตัวเอง การผลิตสินค้าให้ถูกใจผู้บริโภคตามกระแสความงามจากเกาหลี

TONERS

หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าสองครั้งโทนเนอร์เป็นขั้นตอนที่สามในกิจวัตร Korea-beauty ก่อนอื่น โทนเนอร์ช่วยปรับสมดุลค่า pH ของผิว ช่วง pH ที่ดีที่สุดของผิวอยู่ระหว่าง 4.5-6.2 และสามารถถูกกำจัดทิ้งได้โดยการล้างหน้า ในขณะที่น้ำยาทำความสะอาดค่าพีเอชต่ำสามารถช่วยลดความไม่สมดุลนี้ได้ แม้แต่น้ำที่คุณใช้ล้างสารตกค้างก็สามารถทำให้ผิวอยู่ในสภาพเป็นด่างเล็กน้อย โทนเนอร์สามารถช่วยลดผลกระทบเหล่านี้และป้องกันไม่ให้ผิวแห้งหรือผิวมันหลังจากคุณล้างหน้า นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ลบร่องรอยการแต่งหน้าที่คุณอาจหลงเหลืออยู่จากการทำความสะอาดผิวของคุณ นอกจากนี้ในขณะที่โทนเนอร์อเมริกันมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องความแห้งและแรงของผลิตภัณฑ์ แต่โทนเนอร์ของเกาหลีส่วนมาก ก็ช่วยปลอบประโลมและความชุ่มชื้น โทนเนอร์เป็นจึงที่นิยมมากในเกาหลีที่ เช่น 7 Skin Method และ Toner Wash Method เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ ในการใช้โทนเนอร์เพื่อส่งเสริมผิวเปล่งปลั่ง เป็นลัหษณะของเหลวที่มีน้ำหนักเบาที่สามารถช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ, สารผ่อนคลายและความชุ่มชื้นในส่วนที่สำคัญ 

ESSENCES

เอสเซ้นส์เป็นหัวใจของการดูแลผิวประจำวันของเกาหลี ลักษณะเหลวเหล่านี้ให้ความชุ่มชื้นอย่างมาก ความชุ่มชื้นที่เหมาะสมคือสิ่งที่ช่วยให้ผิวที่เปล่งประกายส่องสว่างจากภายในสู่ภายนอก นอกจากนี้การมีสิ่งกีดขวางที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวจะช่วยป้องกันปัญหา เช่นการระคายเคืองและช่วยให้ผิวของคุณเปล่งปลั่ง เอสเซ้นส์มากมายยังมีสารต้านอนุมูลอิสระและแร่ธาตุเพื่อช่วยบำรุงผิว นึกถึงโทนเนอร์และเอสเซ้นส์ในขั้นตอนการเตรียม ก่อนการบำรุงหลักของเซรั่มคุณ

*หากสนใจสร้างแบรนด์เอสเซ้นส์ของตัวเองสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญกับเราได้

SERUMS

เซรั่มน่าจะเป็นหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดเนื่องจากเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปเช่นกัน เซรั่มมีแนวโน้มที่จะมีความเข้มข้นมากขึ้นในส่วนผสมที่ใช้งานสารเหล่านี้เหมือนเจลทำให้ผิวนวล มักจะมีส่วนผสมที่เข้มข้น หมายถึงการเลือกบำรุงอย่างตรงจุดและรักษาปัญหาผิวเช่นจุดด่างดำริ้วรอยและความหมองคล้ำ โดยปกติแล้วเซรั่มจะมีเนื้อสัมผัสที่มีความข้นมากกว่าเอสเซ้นส์

AMPOULES

แอมเพิลถือว่าเป็นเซรั่มเวอร์ชั่นที่เข้มข้นกว่า คิดว่ามันเป็นช็อตบูสเตอร์ มักจะมีส่วนผสมในปริมาณที่สูงขึ้น และจะใช้เวลา จำนวน จำกัด ตัวอย่างเช่นคุณอาจต้องการใช้แอมป์แพ็ครายสัปดาห์เพื่อให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่มากขึ้น หรือหลังจากเกิดปัญหาผิวหนังครั้งใหญ่ และมักจะเห็นแอมเพิลในขวดเล็กหรือขวดหยดเล็ก ๆ 

ถ้าจะต้องเลือกใช้ระหว่าง Serums หรือ Ampoules อันนี้ก็ต้องดูสภาพผิวของแต่ละคนในช่วงระยะเวลา ๆ นั้นด้วยค่ะว่าเผชิญอะไรมาบ้าง ผิวตอนนี้มีความมันหรือผิวแห้งกร้าน หรือผิวขาดน้ำกันแน่ อันนี้ก็ต้องพิจารณากันแบบ case by case ค่ะ แต่ถ้าถามว่าจะใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ยังไงแนะนำว่าให้ลง Essence (น้ำตบ) > Serum (เซรั่ม) > Ampoules (แอมเพิล) > Cream (ครีม)

*พื้นผิวแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปคือการใช้เอสเซ้นส์->เซรั่ม->แอมเพิล ในลำดับจากบางที่สุดไปยังหนาบนผิวหน้าของเรา วิธีนี้ช่วยให้ผิวสามารถดูดซึมได้ดีที่สุด และยังจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของผลิตภัณฑ์ ให้ดีขึ้นอีกด้วย

สนใจผลิตสินค้าสร้างแบรนด์ของตัวเอง หรือขอปรึกษาได้ที่ 02-346-8222 -4 หรือ  Click!!!  

#SERUM #ESSESNCE #AMPOULES #โรงงานผลิตเครื่องสำอาง #โรงงานผลิตครีม #ผลิตเซรั่ม 

ที่มา: https://www.pibuu.co/2017/09/15/whats-the-difference-between-a-toner-essence-serum-and-ampoule/

error: Content is protected !!